แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 8
1
ข้อดีของการจัดฟันเด็ก EF LINE ที่จะทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก จะเห็นได้ว่า เด็กในสมัยนี้เราจะพบว่ามีเด็กและวัยรุ่นหลายคนที่นิยมจัดฟันจนดูเหมือนทำตามแฟชั่น ทั้งที่จริงแล้วการจัดฟันในเด็กเป็นไปเพื่อแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง หลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจว่าสภาพฟันแบบไหนที่ควรจะเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันในเด็ก ถือว่าได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเด็กไทยมักจะมีฟันผุเพราะรูปแบบการเลี้ยงดูของครอบครัวและการรับประทานอาหารของเด็กในวัยนี้ถือว่าเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุมาก

รวมไปถึงพฤติกรรมที่มีในวัยเด็กก็ส่งผลทำให้เกิดปัญหาฟันได้เช่นเดียว ซึ่งพฤติกรรมในวัยเด็กที่ส่งผลทำให้เกิดปัญหา อันได้แก่ พฤติกรรมการดูดนิ้ว พฤติกรรมการดูดขวดนม ซึ่งยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อใบหน้า และขากรรไกรในเด็กด้วย อย่างไรก็ตาม การให้การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันนั้นมีหลายช่วงอายุ ซึ่งต้องพิจารณาตามความผิดปกติและพัฒนาการของกะโหลกศีรษะและใบหน้าร่วมด้วย โดยมีแนวทางพิจารณาดังนี้ หากมีความผิดปกติของความสัมพันธ์ของกระดูกขากรรไกรบน-ล่าง ก็ควรจะเริ่มการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามไปยังฟันข้างเคียงได้

 ซึ่งการจัดฟันในเด็กที่สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของกล้ามเนื้อของใบหน้า และปัญหาฟันในเด็กได้นั้น ก็คือ การจัดฟันในเด็กโดยเครื่องมือ EF LINE หรือการจัดฟันในเด็กแบบเครื่องมือติดแน่น แต่วันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงข้อดีของการจัดฟัน EF LINE ที่จะทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งถือว่าเครื่องมือ EF LINE ถือว่าเป็นเครื่องมือจัดฟันในเด็กที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 3-4 ขวบ เพราะเครื่องมือจัดฟันแบบ EF LINE มีลักษณะเป็นชิ้นยางที่เด็กสามารถสวมใส่ได้สะดวกสบาย เพราะเด็กบางรายที่มีความเคยชินบางอย่าง เช่น ดูดนิ้ว แกะเล็บ กัดริมฝีปาก หายใจทางปากเป็นประจำ หรือมีการกลืนที่ผิดปกติ อุปนิสัยเหล่านี้จะมีผลต่อการเรียงตัวของฟัน หรืออาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของใบหน้าและขากรรไกรที่ผิดปกติ

ทำให้ต้องมารับการจัดฟันเร็วขึ้น เพื่อป้องกันหรือแก้ไขความผิดปกติเหล่านั้น ดังนั้น EF line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ ซึ่งหากเด็กไม่มีปัญหาเหล่านี้ นอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว ยังสามารถช่วยทำให้เด็กมีความกล้าแสดงออก มีความมั่นใจ และยังช่วยทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย เพราะการที่บุตรหลานของท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดี แน่นอนว่าส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้เป็นอย่างดี และการพาเด็กเข้ารับการจัดฟันนั้น จะเป็นการปลูกฝังทำให้เด็กรู้จักการทำความสะอาดช่องปากและฟัน เป็นการสร้างทัศนคติที่ดีให้กับเด็ก ทำให้เด็กคุ้นชินกับการเข้าพบทันตแพทย์ ลดปัญหาในเรื่องของเด็กกลัวทันตแพทย์ด้วย

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก รวมถึงมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมในเด็ก และยังสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะคลินิกก็ได้นำนวัตกรรมล้ำสมัยนี้มาใช้ กับเด็กเล็กที่มีอาการผิดปกติทางด้านโครงสร้างกระดูกขากรรไกรที่เป็นต้นเหตุหลักทำให้ใบหน้าผิดรูป รวมถึงการสบฟันผิดปกติในเด็กเล็ก ไม่เว้นแม้แต่พฤติกรรมที่ทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องสุขภาพช่องปากในอนาคตอีกด้วย

2
สินค้า บริการอื่น ๆ / Doctor At Home: โรคหัด (Measles)
« เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2024, 13:40:19 pm »
Doctor At Home: โรคหัด (Measles)

โรคหัด (Measles) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจ โดยผู้ที่ป่วยจะมีอาการเด่น ๆ คือ เกิดผื่นตามผิวหนังร่วมกับมีไข้ขึ้น ซึ่งในบางกรณี หากไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์ ผู้ที่ป่วยอาจมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและการเสียชีวิตได้

โรคหัดเป็นโรคที่มักเกิดกับเด็ก โดยมีสาเหตุมากจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มพารามิคโซไวรัส (Paramyxovirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่สามารถแพร่เชื้อและติดต่อกันได้จากคนสู่คนผ่านทางอากาศหรือการสัมผัสน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง

อาการของโรคหัด

โดยทั่วไปแล้ว อาการจากโรคหัดจะเริ่มแสดงภายใน 14 วันหลังจากได้รับเชื้อไวรัส โดยอาการที่มักพบได้ เช่น

    ระยะเริ่มแรก ผู้ป่วยจะมีไข้ขึ้นสูง ซึ่งจะเริ่มเป็นไข้ประมาณ 10–12 วันหลังได้รับเชื้อ รวมถึงยังมีอาการน้ำมูกไหล ไอบ่อย เจ็บคอ ตาเยิ้มแดง และมีตุ่มคอพลิค (Koplik Spots) หรือตุ่มแดงที่มีสีขาวเล็ก ๆ ตรงกลางขึ้นในกระพุ้งแก้ม
    ระยะเกิดผื่น เมื่อผู้ป่วยออกอาการได้ 3–5 วัน ผู้ป่วยจะเกิดผื่นขึ้นตามร่างกาย ซึ่งคล้ายผื่นคันตามผิวหนัง โดยมักเกิดผื่นแดงหรือสีแดงออกน้ำตาลขึ้นเป็นจุดบนหน้าผากก่อน แล้วค่อยแพร่กระจายมาที่ใบหน้าและลำคอ จากนั้นภายใน 3 วัน ผื่นจะกระจายมาถึงมือและเท้า และจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง

ในกรณีทารก เด็ก ผู้ที่ป่วยเป็นวัณโรค มะเร็ง หรือโรคอื่น ๆ ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอที่พบอาการเข้าข่ายในลักษณะข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิดทันที

ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 12  ปีที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวรับประทานยาแอสไพรินเพื่อลดไข้ เพราะเด็กอาจจะเกิดอาการแพ้ยาที่เรียกว่ากลุ่มอาการราย (Reye’s Syndrome) ซึ่งทำให้ตับและสมองบวม โดยลักษณะอาการดังกล่าว ได้แก่ เด็กจะอาเจียนทันที อ่อนเพลีย หมดความสนใจต่อสิ่งรอบตัว พูดหรือทำอะไรที่แปลกไปจากเดิม และมักนอนซม


สาเหตุของโรคหัด

โรคหัดเกิดจากการรับเชื้อไวรัสผ่านทางอากาศ ซึ่งอาจมาจากการสัมผัสละอองน้ำลาย น้ำลาย และน้ำมูกของผู้ที่ป่วย ซึ่งช่วง 4 วันทั้งก่อนและหลังเกิดผื่นนั้นถือเป็นระยะเวลาของการแพร่เชื้อ โดยเชื้อไวรัสจะเข้ามาทางระบบทางเดินหายใจและแพร่ไปทั่วร่างกาย

ผู้ที่เสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโรคหัดนั้นมีอยู่หลายกลุ่ม แต่อาจพบได้มากในเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด ซึ่งเด็กในกลุ่มนี้และเด็กที่ไม่ได้รับสารอาหารจำพวกวิตามินเออย่างเพียงพอยังอาจมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเสียชีวิตได้อีกด้วย

นอกจากนี้ สตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนและได้รับเชื้ออาจเสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือคลอดก่อนกำหนดได้ ส่วนผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอเนื่องจากภูมิต้านทานถูกทำลายอย่างผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ รวมทั้งผู้ที่ขาดสารอาหารนั้น จะป่วยเป็นโรคหัดอย่างรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ


การวินิจฉัยโรคหัด

ในการวินิจฉัยโรคหัด แพทย์จะตรวจดูว่าผู้ป่วยมีอาการผื่นขึ้นและเป็นไข้ร่วมด้วยหรือไม่ และผื่นที่ขึ้นบนผิวหนังนั้นมีลักษณะที่คล้ายโรคหัด (Morbilliform Exanthem) หรือไม่ รวมทั้งพิจารณาอาการอื่น ๆ ที่บ่งชี้โรคหัด ได้แก่ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ ตาแดงแฉะ และเป็นตุ่มคอพลิคสีขาวออกน้ำเงินที่ปรากฏภายในกระพุ้งแก้ม

นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางคน แพทย์อาจเจาะเลือดร่วมด้วยเพื่อผลการวินิจฉัยที่แม่นยำ โดยแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละคนเป็นกรณีไป


การรักษาโรคหัด

ในปัจจุบันยังไม่มียาหรือวิธีทางการแพทย์ใดที่ได้รับการระบุว่าสามารถรักษาและกำจัดเชื้อไวรัสของโรคหัดได้อย่างเฉพาะเจาะจง

แต่ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองให้อาการทุเลาลงได้ด้วยการดื่มน้ำวันละ 6–8 แก้ว พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย อยู่ในที่แห้งและมีอุณหภูมิพอเหมาะเพื่อลดอาการไอและเจ็บคอ และอาจให้วิตามินเอเสริมให้กับร่างกาย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์

โดยในระหว่างนี้ ผู้ป่วยโรคหัดที่เริ่มมีผื่นขึ้นควรอยู่ในบ้าน งดการไปโรงเรียน ไปทำงาน หรือการพบปะผู้คนตามที่สาธารณะเป็นเวลาอย่างน้อย  4 วันหลังจากผื่นเริ่มปรากฏเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้คนรอบข้าง

อย่างไรก็ดี แพทย์อาจสั่งจ่ายยาลดไข้ที่ไม่ใช่ยาแอสไพรินอย่างยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อช่วยลดไข้และบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ
ภาวะแทรกซ้อนของโรคหัด

ภาวะแทรกซ้อนของโรคหัดมักเกิดกับทารกที่อายุต่ำกว่า 1 ปี เด็กที่ขาดสารอาหารและภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ไปจนถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่สุขภาพไม่ดี โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้มีดังนี้

    ท้องเสียและอาเจียน ซึ่งจะนำไปสู่อาการขาดน้ำ
    หูชั้นกลางติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดหู
    ติดเชื้อที่ตา ก่อให้เกิดอาการตาแดงเยิ้มแฉะ
    กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis)
    ปอดบวม หลอดลมอักเสบ หรือกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจอักเสบ (Croup) เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและปอด
    ไวรัสตับอักเสบ
    ตาเหล่ หากไวรัสส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อตา
    เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือสมองอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อบริเวณเยื่อหุ้มสมองหรือที่สมอง

ในกรณีของสตรีมีครรภ์ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคหัดและติดเชื้อไวรัสนั้นมีโอกาสเสี่ยงแท้งบุตรหรือทารกเสียชีวิตในครรภ์และคลอดก่อนกำหนด โดยผู้เป็นแม่จะคลอดก่อนสัปดาห์ที่ 37 ของอายุครรภ์ ทั้งนี้ ทารกอาจจะมีน้ำหนักตัวเมื่อแรกคลอดน้อย

อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยสามารถหลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อนบางอย่างได้หากรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์และดื่มน้ำอย่างเพียงพอ โดยแพทย์แนะนำให้รักษาอาการขาดน้ำอันเป็นภาวะแทรกซ้อนหนึ่งของโรคหัดด้วยการจิบน้ำผสมผงละลายเกลือแร่โออาร์เอส (Oral Rehydration Salt) เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว สำหรับอาการติดเชื้อที่ตา หู และระบบทางเดินหายใจสามารถใช้ยาปฏิชีวนะรักษาได้

นอกจากนี้ ในกรณีที่พบได้น้อย ผู้ป่วยโรคหัดอาจพบภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้ได้เช่นกัน

    ตาบอด เกิดจากการติดเชื้อที่เส้นประสาทตา ทำให้เกิดโรคประสาทตาอักเสบ (Optic Neuritis) และนำไปสู่ภาวะสูญเสียการมองเห็น
    ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและระบบประสาท
    ภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้สมองเกิดความผิดปกติ (Subacute Sclerosing Panencephalitis: SSPE) โดยจัดเป็นกรณีที่เกิดน้อยมาก พบผู้เกิดภาวะนี้ได้ 1 ใน 25,000 ราย


การป้องกันโรคหัด

โรคหัดป้องกันได้ด้วยการรับวัคซีนป้องกันโรคหัด (Measles Vaccine) ให้ครบตามกำหนด โดยวัคซีนที่ใช้ฉีดเพื่อป้องกันคือวัคซีน Measles–Mumps–Rubella Vaccine (MMR) ซึ่งเป็นวัคซีนที่ป้องกันได้ทั้งโรคหัด (Measles) คางทูม (Mumps) และหัดเยอรมัน (Rubella) โดยทารกสามารถรับวัคซีนได้ครั้งแรกเมื่ออายุครบ  9–12 เดือน และรับวัคซีนครั้งต่อไปเมื่ออายุ 4–6 ปี

ส่วนเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน สามารถรับวัคซีนได้ 2 เข็ม โดยเว้นช่วงการรับวัคซีนแต่ละรอบให้ห่างกันอย่างน้อย 28 วัน

อย่างไรก็ตาม การได้รับวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวก็อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงได้บ้าง เช่น เป็นไข้หลังจากได้รับวัคซีน หรือเกิดอาการผื่นขึ้นคล้ายผื่นโรคหัดแต่อาการจะหายไปเอง

หรือในบางกรณี วัคซีนอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ เช่น อาการชัก หูหนวก สมองถูกทำลาย และหมดสติไม่รู้ตัว แต่กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่พบได้น้อย นอกจากนี้ พ่อแม่บางรายยังเชื่อว่าวัคซีนโรคหัดก่อให้เกิดโรคออทิสติก (Autism) ในเด็ก แต่งานวิจัยหลายชิ้นก็ได้พิสูจน์แล้วว่าโรคออทิสติกไม่ได้เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันร่างกายแต่อย่างใด

นอกจากวัคซีนในข้างต้น ยังมีวัคซีน Measles–Mumps–Rubella–Varicella Vaccine (MMRV) ซึ่งนอกจากจะป้องกันโรคทั้ง 3 โรคเช่นเดียวกับวัคซีน MMR แล้ว ยังป้องกันโรคอีสุกอีใสด้วย โดยเด็กอายุตั้งแต่ 12 เดือนจนถึงอายุ 12 ปีสามารถรับวัคซีนตัวนี้ได้

ทั้งนี้ การรับวัคซีนป้องกันโรคหัดก็มีข้อจำกัดสำหรับบุคคลบางกลุ่ม โดยกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ควรรับวัคซีนป้องกันโรคหัด ได้แก่

    สตรีมีครรภ์
    เด็กที่ป่วยเป็นวัณโรค ลูคีเมีย และมะเร็งชนิดอื่น ๆ แล้วยังไม่ได้รับการรักษา
    ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ
    เด็กที่มีประวัติแพ้เจลาตินหรือกลุ่มยาปฏิชีวนะนีโอมัยซิน (Neomycin) อย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวได้รับเชื้อไวรัสโรคหัดเข้าไปก็ยังสามารถฉีดแอนติบอดี้หรือสารโปรตีนที่มีชื่อว่าอิมมูนโกลบูลิน (Immunoglobulin) เพื่อป้องกันการป่วยได้ ซึ่งต้องฉีดสารดังกล่าวภายใน 6 วันหลังจากที่รับเชื้อ

3
มอเตอร์โชว์: มิตซูบิชิจัดทัพสุดยอดยานยนต์ล้ำสมัย พร้อมจัดเต็มข้อเสนอสุดพิเศษ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขนทัพสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ณ งาน BIG MOTOR SALE 2024 ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี และครั้งแรกของการจัดแสดง มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด
 

ร่วมด้วยรถแข่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ ที่เพิ่งกลับมาจากสนามแข่งสุดหฤโหด เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2024 หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2024
   
มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า “รถยนต์ของเราทุกรุ่นได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมหลอมรวมความเป็นมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งเน้นมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว สมรรถนะอันยอดเยี่ยม ความแข็งแกร่งทนทาน ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย รวมถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยภายในงานนี้ นอกเหนือจากการนำเสนอรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แล้ว เรายังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นอีกด้วย”


นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
 
สุดยอดยนตรกรรมที่จัดแสดงภายในงานนี้ นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นแรกในไทย ที่มอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย Mitsubishi e:MOTION ที่ผสานระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด เพื่อการขับขี่ที่ตอบสนองยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมัน โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง
 
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี มีการออกแบบภายนอกสไตล์รถอเนกประสงค์เอสยูวีที่ทันสมัย พร้อมด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ติดตั้งเบาะหนังสังเคราะห์ พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard) ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control) หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว และระบบเกียร์ไฟฟ้า รถยนต์สองรุ่นนี้ผลิตในประเทศไทยด้วยมาตรฐานคุณภาพสูงสุดที่สร้างความเชื่อมั่นได้อย่างเต็มที่ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์สองรุ่นนี้ภายในงาน จะได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ย 0%* และฟรีแพ็กเกจ MITSUBISHI XTRA CARE ซึ่งครอบคลุมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อความอุ่นใจตลอดการใช้งาน
 
อีกหนึ่งไฮไลต์คือ มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด สะดุดตาด้วยการตกแต่งภายนอกสีดำสุดเท่ ประกอบด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ไดนามิก ชีลด์และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา บันไดข้างตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ ระบบขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ (Hyper Power) คลีนดีเซลเทอร์โบที่มีกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ทำให้มีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมันที่ 14.5 กม./ลิตร มีระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ Diamond Sense
 
ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,027,000 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับรถไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ ยกสูง เกียร์อัตโนมัติ  รุ่น อัลตร้า มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน เพียบพร้อมและครบครันในด้านความสะดวกสบายและความหรูหราระดับสูงสุด มอบประสบการณ์การขับขี่แบบรถเอสยูวี มีการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและไว้วางใจได้ในทุกเส้นทาง ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น พร้อมหน้าจอขนาด 9 นิ้วที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay ที่พร้อมเชื่อมต่อแบบไร้สาย และ Android Auto เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์
 

อีกหนึ่งที่สุดแห่งยนตรกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู (Hyper Power X2) พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 1,500 - 2,750 รอบต่อนาที ห้องโดยสารมอบความสะดวกสบายสูงสุดและการตกแต่งทูโทนสีส้ม-ดำ รูปลักษณ์โดดเด่นพร้อมสะกดทุกสายตาและตอบสนองไลฟ์สไตล์การผจญภัยที่สมบูรณ์แบบ เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Diamond Sense ของมิตซูบิชิ  พร้อมระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) ช่วยให้ขับขี่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ

มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ยังโดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แตกต่างอย่างเหนือกว่าด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและพื้นผิวถนนทุกรูปแบบ และยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีมิตซูบิชิ คอนเนค (MITSUBISHI CONNECT) ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน “My MITSUBISHI CONNECT” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการสั่งการตัวรถแบบไร้สายได้จากระยะไกล ใช้งานง่าย ลูกค้าที่ซื้อมิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท และมิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน จะได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.89%* พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในรอบปี สำหรับลูกค้าภายในงานนี้เท่านั้น!
 

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองคือ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และคุณสมบัติระดับพรีเมียม เครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ ใหม่ ที่มีกำลัง 184 แรงม้า ทรงพลังและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5) ประหยัดน้ำมันที่ 14.3 กม./ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดระหว่างการขับเคลื่อน 2 ล้อและการขับเคลื่อน 4 ล้อได้ทันที (Shift-on-the-Fly) แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว 
 
รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าและแผงกันชนดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารยกระดับความสะดวกสบายและความสปอร์ตด้วยการตกแต่งใหม่แบบสีทูโทน ดำ-แดงเบอร์กันดี จอแสดงผลการขับขี่ใหม่ และเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน Diamond Sense อันล้ำสมัย มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition มาพร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.09%*

 
ปิดท้ายด้วย มิตซูบิชิ แอททราจ สมาร์ท รถอีโคคาร์ยอดนิยมที่ได้รับการยอมรับในด้านความคุ้มค่าและไว้วางใจ โดดเด่นด้วยความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบายคล่องตัว ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ได้แก่ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วที่ความเร็วต่ำ (Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range: FCM -LS) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-FORWARD: RMS-FORWARD และระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control) ที่ทำให้การขับขี่มีความมั่นใจและปลอดภัย โดยลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้ภายในงานนี้จะได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0%*
 
เพื่อมอบความอุ่นใจในการเป็นเจ้าของรถมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ทุกรุ่นจะได้รับประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี พร้อมด้วยการรับประกันคุณภาพรถใหม่ นาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะ  และสามารถเลือกรับแพ็กเกจบำรุงรักษาตามระยะ ค่าอะไหล่ และเคมีภัณฑ์ รวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร หรือเลือกรับเป็นส่วนลดเงินสด*

4
โทรศัพท์มือถือใหม่ 2024: เสียวหมี่ Xiaomi 14T (12GB/512GB)
17,990 บาท 

เสียวหมี่ Xiaomi 14T (12GB/512GB)
สามเลนส์ สี่ความยาวโฟกัส เลนส์ออปติคอล Summilux จาก Leica
เซ็นเซอร์ภาพ IMX906 จาก Sony ช่วงไดนามิกและการลดสัญญาณรบกวนที่ยอดเยี่ยม
Advance AI ขับเคลื่อนด้วย Xiaomi HyperOS
ลื่นไหลไร้รอยต่อ พร้อมจออัจฉริยะ เทคโนโลยีจอแสดงผล AI 144Hz*
แบตเตอรี่ 5000mAh (typ) ใช้งานได้ยาวนาน ไฮเปอร์ชาร์จ 67W*
อีกขั้นของขุมพลัง ประสิทธิภาพ และความชาญฉลาด ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8300-Ultra

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            เสียวหมี่ Xiaomi 14T (12GB/512GB)
   ราคากลาง         17,990 บาท
   จำนวนซิม          2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์         จอสัมผัส
   สี                   Gray(Titan Gray), Black(Titan Black), Blue(Titan Blue), Green(Lemon Green)

   ความถี่-เครือข่าย
2G
3G
4G
5G

   ขนาด-น้ำหนัก                  ยาว 160.5 x กว้าง 75.1 x หนา 7.8 มม., น้ำหนัก 195 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)  512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด    -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ      ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ              จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด      6.67 นิ้ว, 446 ppi, 1,220 x 2,712 px
   รายละเอียดอื่น
เทคโนโลยีจอแสดงผล AI 144Hz
วัสดุ: AMOLED
ความละเอียด: 2712 x 1220, 446ppi
อัตรารีเฟรช: สูงสุด 144Hz*
หน้าจอรองรับอัตรารีเฟรชสูงสุดถึง 144Hz อัตรารีเฟรชหน้าจออาจแตกต่างกันออกไปเล็กน้อยตามอินเทอร์เฟซแอปพลิเคชันและคุณภาพกราฟิกของเกมที่แตกต่างกัน โปรดอ้างอิงจากประสบการณ์จริง
ความไวตอบสนองการสัมผัส: สูงสุด 480Hz
ช่วงสี: DCI-P3
ความลึกของสี: 6.8 หมื่นล้านสี
ความสว่างสูงสุด: 4000nits
การหรี่ไฟ: สูงสุด 3840 PWM
โหมดสีเข้ม
ความสว่างอัตโนมัติ
หน้าจอ TrueColor
สีดั้งเดิมโปร
สีสันที่ปรับอัตโนมัติ
โหมดอ่านหนังสือ
การแสดงผล HDR ระดับโปร
ระบบภาพ AI
HDR10+
Dolby Vision®
ได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)
ได้รับใบรับรองความไร้ซึ่งแสงกะพริบจาก TÜV Rheinland
ได้รับใบรับรองความเป็นมิตรกับนาฬิกาชีวภาพจาก TÜV Rheinland

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                    กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                                -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8300-Ultra
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Arm Mali-G615 MC6
   หน่วยความจำ (RAM)              12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              USB(Type-C), Bluetooth(5.4), NFC, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                   -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, WiFi, 4G, 5G
   ระบบ GPS                         ไม่มี

5
ซ่อมบำรุงอาคาร: ต้นตอปัญหาน้ำรั่วบริเวณฝ้าเพดาน เกิดได้จากอะไรบ้าง?

สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือเรื่องของโครงฝ้าเพดาน ที่จะต้องใช้วัสดุที่ทนต่อความชื้น มีการเคลือบชุบสังกะสี ไม่เป็นสนิม แข็งแรง และทนทาน เพื่อไม่ให้ฝ้าเพดานถล่มลงมาหลังจากเกิดการขังของน้ำ ซึ่งปัญหาน้ำรั่วจากฝ้าเพดาน เป้นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายคน แถมยังสร้างความหนักใจในการแก้ไขปัญหาด้วย เพราะถือว่าเป็นงานที่ใหญ่ และต้องแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด


เพราะต้นตอของปัญหาการรั่วซึมนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ หากเราแก้ไขไม่ถูกจุด ก็จะสร้างปัญหาให้กับเจ้าของบ้านอยู่เรื่อยๆ ประกอบกับเรื่องความสะอาดภายในบ้านของเรา เป็นสิ่งที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ เพราะบ้านเป็นสถานที่ที่เราต้องอยู่อาศัยทุกวัน ถ้าปล่อยให้บ้านมีความสกปรก ไม่เช็ดถูทำความสะอาด อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านได้ แถมยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านไม่ดีด้วย และปัญหาน้ำรั่วซึม ยังเป้นต้นเหตุของปัญหาคราบเชื้อราบนผนัง ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้าน ดังนั้น วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงต้นตอของการเกิดปัญหาน้ำรั่วซึม ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในบ้านของเรา หากไม่รีบแก้ไขอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน อาจจะทำให้ฝ้าพังลงมาได้เลยทีเดียว

ปัญหาที่เจอบ่อยกันมากในช่วงฤดูฝนก็คือ ฝ้าเพดานรั่ว เพราะอย่างที่รู้กันว่า ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่ชื้นและฝนก็ตกนานมาก ซึ่งการที่น้ำจะรั่วซึมนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลก แต่การเกิดการรั่วซึมบริเวณฝ้าเพดานก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นมีน้ำที่รั่วซึมมาจากหลังคา เพราะในช่วงที่ฝนตก ถ้าหากหลังคาหรือดาดฟ้ามีรอยรั่วอยู่ น้ำก็จะไหลลงมายังฝ้าเพดาน ทำให้เปียกจนอาจจะเกิดการบวม ขึ้นรา และเกิดการทะลุได้ หรืออาจจะมีน้ำรั่วซึมจากภายนอก เช่น รอยแตกร้าวของผนังปูน ที่เมื่อฝนสาดเข้ามาใส่บ้านแล้ว น้ำเหล่านั้นก็จะไหลไปรวมกันที่ฝ้าเพดานได้เหมือนกับการรั่วที่หลังคา รวมไปถึงการรั่วซึมภายในบ้าน ถ้าหากห้องน้ำที่อยู่ชั้นบนของบ้าน ไม่ได้ปูวัสดุกันซึมก่อนปูกระเบื้อง น้ำอาจจะซึมเข้าตามผนังและไหลไปยังฝ้าเพดานชั้นล่าง หรือ ท่อน้ำภายในเกิดการชำรุด จนน้ำรั่วไหลออกมา ก็เป็นอีกสาเหตุหลักที่ฝ้าเพดานรั่ว บางครั้งอาจจะส่งกลิ่นเหม็น ทำให้บรรยากาศภายในบ้านไม่น่าอยู่ได้อีกด้วย


นอกจากนี้ อาจจะมีสาเหตุมาจาก แผ่นยิปซัมที่เราใช้อาจจะไม่กันชื้น สำหรับแผ่นฝ้ายิปซัมบางชนิดนั้น ไม่ได้มีวัสดุเคลือบที่ทนต่อความชื้น หรือมีอัตราการอมน้ำที่สูง เมื่อน้ำรั่วมาจากภายในบ้าน จะทำให้น้ำซึมเข้าไปข้างใน จนเกิดอาการบวม และรั่วออกมาในที่สุด และอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดน้ำรั่วบนฝ้าเพดานนั้น ก็คือ เรื่องตำแหน่งของท่อระบายน้ำ ซึ่งก็นับว่าเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการติดตั้งตะแกรงระบายน้ำทิ้ง ที่อาจเจาะและติดตั้งไม่ดี ส่งผลให้ข้อต่อของท่อระบายน้ำไม่พอดีกัน แล้วนำมาสู่เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมไปยังห้องด้านล่าง และมีคราบน้ำบริเวณฝ้าเพดานอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้

การปูกระเบื้องที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็สามารถทำให้เกิดปัญหารั่วซึมได้ มักมีสาเหตุมาจากช่างที่ทำการก่อสร้าง หรือปูกระเบื้องมาตั้งแต่แรก ๆ โดยเฉพาะการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา ที่จะต้องนำกาวซีเมนต์ไปทาลงบนบางส่วนของแผ่นกระเบื้อง สุดท้ายแล้วก็ส่งผลให้ตัวกระเบื้องมีช่องว่าง จนทำให้มีความชื้นและน้ำไปสะสม ท้ายที่สุดแล้วก็ส่งผลให้กระเบื้องหลุดร่อน ระเบิด หรือโก่งตัว จนนำมาสู่ปัญหาน้ำซึมและน้ำรั่วตามมา ปัญหาการรั่วซึมเหล่านี้


เราสามารถป้องกันได้ เพียงแค่เราคอยหมั่นสังเกต และตรวจเช็คให้ดีว่ามีรอยรั่วซึมตรงไหนบ้าง เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้ทันที และไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาที่ผนังตามมา ซึ่งก็จะเกิดปัญหาไม่จบไม่สิ้น ต้องมาคอยแก้ไขบ่อยครั้ง ดังนั้น บ้านที่เราอยู่ เราควรจะสังเกตถึงปัญหาและรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด


อย่างที่ทราบกันว่า ปัจจัยหลายๆอย่างในบ้านของเรา สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เราได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี เพราะสุขภาพที่ดีสามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ทางเรามีบริการทำความสะอาดบ้าน หรือภายในอาคารต่างๆ รวมไปถึงยังมีบริการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ห้างสรรพสินค้า เพราะเราห่วงใยและใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยของลูกค้ามาเป็นอันดับแรกเสมอ

6
จัดฟันบางนา: การฝังรากฟันเทียม มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่

การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากในการแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟันซึ่งในปัจจุบันนี้การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมมีความก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการรักษาทำให้มีผลการรักษาที่มีอัตราความสำเร็จมากกว่าสมัยก่อนที่ฝังรากฟันเทียมด้วยมือเปล่าซึ่งรากฟันเทียมนั้นผลิตจากวัสดุไทเทเนี่ยมซึ่งสามารถเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดีและใช้กันอย่างแพร่หลายมีการออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะบุคคลเพื่อให้ยึดติดกับกระดูกขากรรไกรที่ใช้รองรับรักฟันของผู้เข้ารับการรักษาในตำแหน่งที่มีการสูญเสียฟันและต้องการที่จะทดแทนสารธรรมชาติที่สูญเสียไปโดยรากฟันเทียมนั้นจะทำหน้าที่ทดแทนรักฟันธรรมชาติเพื่อรองรับครอบฟันและสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด

ทั้งนี้รากฟันเทียมยังมีระยะเวลาที่ใช้งานได้นานเนื่องจากวัสดุที่นำมาผลิตรากฟันเทียมนั้นมีความมั่นคงแข็งแรงแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดของผู้เข้ารับการรักษาว่าสามารถดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันได้ดีมากน้อยแค่ไหนรวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารว่ามีความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อตัวรากฟันเทียมหรือไม่เพราะเนื่องจากภายหลังจากการรักสา ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้รักฟันเทียมยึดติดกับกระดูกได้อย่างสนิทเสียก่อนในเรื่องของการรับประทานอาหารก็จะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดผลกระทบเช่นหากผู้เข้ารับการรักษารับประทานอาหารที่มีความแข็งก็จะทำให้เกิดกระทบกระเทือนต่อรากฟันเทียมได้ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดรากฟันเทียมหลุดออกจากกระดูกขากรรไกรได้ซึ่งจะต้องทำการฝังรากฟันเทียมใหม่อีกรอบนับว่าเป็นวิธีการที่ยุ่งยากมากเลยทีเดียว

หลายคนเกิดความสงสัยว่าการรักษาด้วยการผ่าตัดฝั่งรากฟันเทียมนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ารักฟันเทียมมีความแข็งแรงมั่นคงถาวรสามารถอยู่กับเราได้ไปตลอดชีวิตแต่ด้วยระยะเวลาของรากฟันเทียมนั้นหลายคนมีความกังวลว่าหากเราฝังรากฟันเทียมแล้วการใช้ชีวิตประจำวันจะมีผลกระทบหรือไม่ต้องบอกก่อนว่าการฝังรากฟันเทียมนั้นไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเนื่องจากทันตแพทย์จะทำการฝังรากฟันเทียมลงไปบนกระดูกขากรรไกรของเราเพื่อทดแทนฟันซี่ที่สูญเสียไปซึ่งรากฟันเทียมนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับฟันธรรมชาติซึ่งยึดติดอยู่ภายในปากของเรา ซึ่งเราไม่มีเครื่องมือใดใดอยู่ภายในช่องปากทำให้รับประทานอาหารได้ง่ายขึ้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติไม่มีผลข้างเคียงใดใดเกี่ยวกับสุขภาพของร่างกายและสุขภาพช่องปากและฟัน นอกจากนี้วิธีการทำความสะอาดก็สามารถทำความสะอาดได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ

แต่เรื่องหนึ่งที่ผู้เข้ารับการรักษาต้องระมัดระวังคือ พฤติกรรมการรับประทานอาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ในเรื่องของการรับประทานอาหารผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของการรับประทานอาหาร ควรงดเว้นการรับประทานอาหารที่มีความแข็ง และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีอุณหภูมิที่ร้อนจัด เพราะอาจจะทำให้รากฟันเทียมเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ นอกจากนี้ผู้เข้ารับการรักษาบางรายอาจจะมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ที่จัด ซึ่งบุหรี่นั้นส่งผลกระทบต่อร่ายกายโดยตรง รวมถึงส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันด้วย ซึ่งการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมมีข้อดีหลายข้อ ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับมามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพราะการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น จะช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากและฟัน ทำให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของบุคลิกภาพเนื่องจากทำให้ผู้เข้ารับการักษากลับมามีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ

สำหรับผู้ที่ทันตแพทย์จะแนะนำให้การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม คือ ผู้เข้ารับการรักษาที่มีฟันแตก หัก หรือบิ่น หรือผู้เข้ารับการรักษาที่สมควรได้รับการถอนฟันจากทันตแพทย์ และทำรากฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป และผู้เข้ารับการรักษาที่มีเหงือกบริเวณที่จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม และต้องไม่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลให้การฝังรากฟันเทียมอาจเกิดการล้มเหลวได้

อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน และมีความต้องการที่เข้ารับการรักษาเกี่ยวกับทางด้านทันตกรรม หรือมีความสนใจที่เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม สามารถเข้ารับคำแนะนำกับทางคลีนิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการฝังรากฟันเทียม และมีประสบการณ์ในด้านการรักษามาอย่างยาวนาน การันตีด้วยการผ่านการอบรมมาอย่างเฉพาะด้าน นอกจากนี้ทางคลีนิกยังมีบริการทางด้านทันตกรรมที่ครบวงจร สามารถรอบรับผู้เข้ารับการรักษาที่มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันได้ทุกกรณี



7
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ทำบุญไหว้ ขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครพนม

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม นับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อีกทั้งยังเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครพนมที่ยังคงความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปอย่างไม่เสื่อมคลาย หลายคนมีโอกาสได้มาที่นี่ และอีกหลายคนเช่นกันที่ยังไม่เคยได้มา วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อที่ว่าไปรอบนี้จะได้สัมผัสเสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้ให้มากขึ้นกัน

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อยู่ที่ไหน

         วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนชยางกูร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ไม่ไกลจากริมฝั่งแม่น้ำโขง เรียกได้ว่าตั้งอยู่แทบจะใจกลางอำเภอพระธาตุพนมเลยทีเดียว เป็นศาสนสถานที่คนไทยและพี่น้องชาวลาวให้ความนับถือ นิยมเดินทางมากราบไหว้บูชากันอย่างเนืองแน่น นอกจากเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองแล้ว ยังเป็นพระธาตุประจำวันของคนที่เกิดวันอาทิตย์อีกด้วย

    Google Map : วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประวัติ

         วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ทั้งยังเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติควบคู่มากับองค์พระธาตุพนม ทั้งนี้ มีองค์พระธาตุพนมบรมเจดีย์เป็นปูชนียสถานที่สําคัญ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันแล้ว ภายในยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น

    พระอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระประธาน นามว่า “พระองค์แสนศาสดา”
    ลานหอพระแก้ว “พระพุทธมารวิชัยศาสดา” องค์พระประธานในหอพระแก้วประดิษฐานอยู่เด่นเป็นสง่าหน้าองค์พระธาตุพนม
    เสาอินทขีล ทำด้วยศิลาล้วน ซึ่งมีท้าวพญาทั้ง 5 ผู้สร้างพระธาตุพนมในยุคแรก ได้นำมาจากที่ต่าง ๆ แล้วฝังไว้บริเวณรอบพระธาตุทั้ง 4 มุม เสาศิลานี้สันนิษฐานว่าเป็นเสาปักเขตแดนศาสนสถาน
    พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมรัตนโมลีศรีโคตรบูร เป็นที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปและโบราณวัตถุต่าง ๆ รวมทั้งภาพเขียนประวัติวัดพระธาตุพนม

วัดพระธาตุพนม

    บ่อน้ำพระอินทร์ บ่อน้ำเก่าแก่ที่ขุดแต่โบราณ แต่ก่อนพระภิกษุ สามเณร แม่ชีในวัด และประชาชนในหมู่บ้านใกล้เคียง อาศัยตักน้ำจากบ่อนี้ไปดื่มกินและสรงน้ำพระธาตุ ซึ่งทางราชการได้ตักน้ำในบ่อแห่งนี้นำไปใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ๆ เป็นประจำตลอดมา
    หอพระนอน หรือ หอพระพุทธไสยาสน์ และพระพุทธบาทจำลองในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อยู่นอกเขตพุทธาวาส ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์และพระพุทธบาทจำลอง ว่ากันว่าเคยเป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุมาก่อนที่จะบรรจุในอุโมงค์ใต้องค์พระธาตุพนม
    มหารัตนศาลา เป็นที่ประดิษฐานพระสังกัจจายน์ไม้เก่าแก่โบราณ มีพระสังกัจจายน์องค์ใหม่ประดิษฐานไว้ข้างหน้าอีก 1 องค์
    ต้นศรีมหาโพธิ์ ต้นโพธิ์ต้นนี้นำมาจากประเทศอินเดีย รัฐบาลไทยได้มอบให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) มาปลูกไว้เมื่อปี พ.ศ. 2495
    สถูปอิฐพระธาตุพนมองค์เดิม ทางวัดได้นำเศษอิฐในคราวองค์พระธาตุล้มมาก่อขึ้นเป็นสถูปสูง 8 เมตร เพื่อให้ประชาชนได้ระลึกถึงและกราบไหว้บูชา
    หนองสระพัง สระเก็บน้ำโบราณ ตั้งอยู่ห่างจากพระธาตุพนมประมาณ 300 เมตร

องค์พระธาตุพนม ประวัติ

          จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่า พระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200-1400 ตามตำนานกล่าวว่า ผู้สร้างคือพระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ โดยภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และของมีค่าอีกมากมาย

         ต่อมาวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 ได้เกิดเหตุการณ์พระธาตุพนมล้มลงมาทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุและมีฝนตกพายุพัดแรงติดต่อกันหลายวัน ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิมจนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522

         ปัจจุบันพระธาตุพนมเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐ มีลวดลายสลักลงบนแผ่นอิฐสวยงาม มีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร บนยอดพระธาตุเป็นฉัตรทองคำ มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม และมีพลอยประดับงดงาม

องค์พระธาตุพนม กับพระธาตุประจำวันเกิด
         องค์พระพระธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำวันของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก มีความเชื่อกันว่า ใครที่ไปนมัสการจะได้รับอานิสงส์บุญบารมีและมีผู้คนให้ความเคารพนับถือ นอกจากนี้ ในวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี จะมีการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งยังได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวนครพนมที่น่าสนใจ
คำกล่าวบูชาพระธาตุพนม

คาถาบูชาพระธาตุพนม

         ปุริมายะ, ทักขิณายะ, ปัจฉิมายะ, อุตตะรายะ, เหฏฐิมายะ, อุปะริมายะ ทิสายะ, กะปะณะคิริสะมิง ปัพพะเต มหากัสสะเปนะ ฐาปิตัง พุทธอุรังคะธาตุง สิระสา นะมามิ

คำไหว้ยอด
         เสตะฉัตตัง สุวัณณะระชะตัง ระตะนัง ปะณีตัง พุทธะอุรังคะเจติยัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา

          โดยสิ่งของที่นิยมนำมาบูชาองค์พระธาตุพนม คือ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีแดง ธูป 6 ดอก เทียน 2 เล่ม นิยมเดินรอบองค์พระธาตุพนม 3 รอบ หลังจากนั้นกราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และยังมีการห่มผ้าองค์พระธาตุ (สามารถติดต่อกับทางวัด) มีซุ้มจำหน่ายดอกไม้จำหน่ายตามแต่จะศรัทธา

แนะนำนิดหนึ่งว่า…เวลาเดินรอบองค์พระธาตุพนมอากาศค่อนข้างร้อน ให้พกร่ม หมวก ติดตัวไปด้วย รวมถึงถุงเท้าเอาไว้ใส่กันร้อน (เนื่องจากต้องถอดรองเท้า) จะได้กราบไหว้ขอพรกันอย่างสบายใจ

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร การเดินทาง

          ถ้าเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มีรถโดยสารมาลงที่อำเภอธาตุพนมได้เลย ไม่ต้องเข้าตัวเมืองนครพนมก่อน มีทั้งขนส่ง 999 และนครชัยแอร์ เมื่อถึงท่ารถธาตุพนมแล้วต่อรถสกายแล็บมาที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารได้เลย

หรือใครที่มาเที่ยวนครพนมและพักค้างคืนในตัวเมือง ก็สามารถเดินทางมาวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารได้โดยสะดวกเช่นกัน เพราะมีรถโดยสารวิ่งระหว่างนครพนม-พระธาตุพนม ตลอดวัน ทั้งรถสองแถวและรถตู้ นครพนม-มุกดาหาร (วิ่งผ่านพระธาตุ) เลือกขึ้นได้ตามแต่สะดวก ใครอยากได้อารมณ์ชิล ๆ แนะนำให้นั่งสองแถว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายแล้ว

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ที่จอดรถ

          ด้วยความที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารเป็นวัดที่มีชื่อเสียง ทำให้แต่ละวันผู้คนเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก สำหรับใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา จริง ๆ ทางวัดมีที่จอดรถอยู่หลายจุด สามารถเลือกได้ตามสะดวก รับรองว่ามีที่จอดรถเพียงพอแน่นอน

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จึงนับเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่สำคัญของจังหวัดนครพนม และเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศ คุ้มค่าแก่การมาเยือนแน่นอน



8
มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2024: GAC AION เปิดตัว HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ที่ขับได้ถึง 620 กม. ในราคาเริ่มต้น 1.449 ลบ.

GAC AION สร้างความตื่นเต้นครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ เน้นความหรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ผสานเข้ากับการออกแบบและการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยจุดเด่น 5 ด้านของตัวรถ ได้แก่ HYPTEC Design, HYPTEC Space, HYPTEC Smart, HYPTEC Energy และ HYPTEC Performance พร้อมลงสู้ศึกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอความหรูหราเหนือระดับและเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์

คุณ โอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ GAC AION ได้มีการแนะนำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ HYPER อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัว HYPER HT รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ที่หลายคนรอคอย ในงาน Motor Show 2024 ครั้งที่ 45 ที่ผ่านมา ได้มีกระแสตอบรับแรงเกินคาดมีประชาชนให้ความสนใจ HYPER HT อย่างล้นหลาม เนื่องจาก HYPER เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ของ GAC AION ที่ตอบสนองความต้องการในกลุ่มลูกค้าผู้หลงใหลความเป็นที่สุด ทั้งความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะขั้นสูง สะท้อนภาพลักษณ์ และรสนิยมอย่างเหนือชั้น ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด

โดยล่าสุด HYPER แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่เป็น HYPTEC และไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนชื่อแบรนด์เท่านั้น แต่เป็นการปรับปรุงภาพลักษณ์และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ครอบคลุมมากขึ้น สะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีล้ำสมัยและการขยายตัวในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก HYPER เป็น HYPTEC เกิดจากการศึกษาวิจัยตลาดและความต้องการของลูกค้าทั่วโลกอย่างละเอียดลึกซึ้ง ชื่อ HYPTEC ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่ โดยชื่อแบรนด์ HYPTEC มีที่มาจาก HYPER สื่อถึงความสุดยอดและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ TECHNOLOGY สื่อถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่หรูหรา แต่ยังล้ำหน้าด้วยคุณสมบัติทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่โดดเด่น

คุณ พอนตุส ฟอนเทอุส (Pontus Fontaeus) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ GAC Advanced Design Los Angeles และ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ HYPTEC ได้กล่าวว่า ปรัชญาการออกแบบของ HYPTEC เริ่มต้นจากหลักปรัชญาการออกแบบ Human-Machine Symbiotic Aesthetics ที่มุ่งเน้นการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีอัจฉริยะ และธรรมชาติอย่างลงตัว ในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เรามุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าทึ่งให้แก่ผู้ใช้ ด้วยการออกแบบภายในที่ทันสมัยและเรียบง่าย สะท้อนถึงบรรยากาศที่หรูหราของการเดินทางระดับเฟิร์สคลาส และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สะดวกสบาย

คุณ สวี่เจ้าหยู่ (Xu Zhaoyu) ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ ได้กล่าวว่า HYPTEC HT ถูกพัฒนาขึ้นด้วย 5 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ HYPTEC Design, HYPTEC Space, HYPTEC Smart, HYPTEC Energy และ HYPTEC Performance ที่เป็นการผสมผสานความสวยงามทางด้านดีไซน์, พื้นที่ภายในห้องโดยสาร, เทคโนโลยีอัจฉริยะ, การจัดการพลังงาน และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รวมกันไว้ใน HYPTEC HT เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับลูกค้า ทำให้ทุกคนหลงใหลในทุกการขับขี่ พร้อมเป็นเพื่อนคุณในทุกเส้นทาง


สำหรับการเปิดตัว HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ ในครั้งนี้ เปิดตัวด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
HYPTEC HT 620 Premium ราคาจำหน่าย 1,449,000 บาท
HYPTEC HT 620 Luxury (ประตูปีกนก) ราคาจำหน่าย 1,749,000 บาท

สิทธิประโยชน์ HYPTEC Exclusive Privilege*
Financial Benefit ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (เมื่อดาวน์ 30% ผ่อน 48 งวด) *เมื่อรับรถและจดทะเบียนรถ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
Exclusive Warranty Package
รับประกันแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม ตลอดอายุการใช้งาน (เฉพาะเจ้าของรถส่วนบุคคล ผู้ครอบครองรถลำดับที่ 1, และไม่ใช้งานรถในลักษณะเชิงพาณิชย์) *กรณีไม่เข้าตามเงื่อนไขด้านบน ระยะการรับประกันสำหรับชิ้นส่วนแบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม จะถูกปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการรับประกันเป็น 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โดยนับจากวันที่ออกรถ
รับประกันคุณภาพรถยนต์ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
รับประกันชิ้นส่วนประตูปีกนก 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
Insurance Gift ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Exquisite Gifts ฟรี ฟิล์มกระจก แผ่นรองเท้า ค่าจดทะเบียน
Exclusive Deal for Home Charger ฟรี Home Chager พร้อมบริการติดตั้ง (ฟรีสายไฟความยาวไม่เกิน 20 เมตร / รับประกันเครื่องชาร์จ 1 ปี)
In-car Internet Service แพ็กเกจอินเตอร์เน็ตในรถยนต์ฟรี นาน 2 ปี ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน
Lifetime OTA Firmware Update ล้ำสมัยตลอดการขับขี่ บริการอัพเกรดซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องในระบบรถยนต์ฟรีตลอดชีพ
24 Hours Roadside Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด


โดย HYPTEC HT มาพร้อม 5 จุดเด่น ที่จะสร้างปรากฏการณ์การขับขี่ก้าวล้ำทันสมัย ดังนี้

HYPTEC Design
HYPTEC HT ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเหมือนผลงานศิลปะ เปรียบเสมือนแสงและเงาที่ไหลเวียนบนพื้นผิวที่เคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยน ตามหลักแนวคิด Aesthetics of mechanics and humanity สุนทรียศาสตร์ทางกลไกที่ผสมผสานกับความเป็นมนุษย์ ด้วยเส้นสายที่โค้งมนและลื่นไหล

พร้อมด้วยดีไซน์หลังคาแบบลาดเอียง (Fastback) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ดีไซน์ด้านหน้าได้รับแรงบันดาลใจจาก อัญมณีคริสตัล ที่ผ่านการเจียระไนอย่างพิถีพิถัน สร้างรูปลักษณ์หน้ารถที่เต็มเปี่ยมด้วยความลึกลับและสง่างามด้วยเทคนิคการขัดอัญมณี ไฟหน้าดีไซน์ Diamond Cut การออกแบบแบบคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพชร ส่องประกายอย่างสดใส ไฟท้าย Horizon ดีไซน์ไฟท้ายแบบรัน-ทรู ส่องแสงยามค่ำคืนเหมือนเส้นขอบฟ้าที่งดงาม

ไฮไลท์ที่โดดเด่นของ HYPTEC HT ก็คือ ประตูปีกนก (Gull wing doors) ที่นอกจากจะดูสวยงามและโดดเด่น ยังมอบพื้นที่การขึ้นลงขนาดใหญ่เป็นพิเศษด้วยความสูงของการเปิดที่ 2.3 เมตร ทำให้ไม่จำเป็นต้องก้มศีรษะหรือย่อตัวเมื่อต้องขึ้นหรือลงจากรถ สามารถเปิดประตูในที่จอดรถแคบๆได้อย่างง่ายดาย ต้องการระยะด้านข้างเพียง 34 ซม. เพื่อเปิดประตู ทำให้ปรับตัวได้ดีกับพื้นที่จอดรถทั่วไป ระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางอัจฉริยะของระบบประตูปีกนกติดตั้งเรดาร์ 12 จุด ทำให้การเปิดประตูมีความชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น ระบบดูดประตูไฟฟ้า ช่วยให้ประตูเปิดและปิดได้อย่างเงียบสนิทโดยไม่ส่งเสียงรบกวน (เฉพาะรุ่น 620 Luxury)


HYPTEC HT มาพร้อมสีตัวถังภายนอกทั้งหมด 5 สี และสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ดังนี้

สีภายนอก (Exterior)
Rose Star (โรสสตาร์) *เฉพาะรุ่น 620 Luxury #25060e
Spinel Grey (สปิเนลเกร) #2f3032
Alpine White (อัลไพน์ไวท์) #f1f3f5
Crystal Silver (คริสตัลซิลเวอร์) #c6d6e8
Onyx Black (โอนิกซ์แบล็ก) #181a1f

สีภายใน (Interior)
Berlin Beige (เบอร์ลินเบจ) *เฉพาะรุ่น 620 Luxury
Midnight Black (มิดไนท์แบล็ก)
Olympus Brown (โอลิมปัสบราวน์)

HYPTEC Space
HYPTEC HT นำเสนอมิติใหม่ของความสะดวกสบายและความหรูหราเหนือระดับ ด้วยห้องโดยสารระดับเฟิร์สคลาสขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อการพักผ่อนที่สะดวกสบาย เบาะนั่งโดยสารหุ้มด้วยวัสดุหนัง Nappa คุณภาพสูงและที่พักแขนทำจากวัสดุไม้แท้ ให้สัมผัสที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยฟีเจอร์เบาะรองน่องผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้มากถึง 143 องศา ทำให้ผู้โดยสารสามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย เพิ่มความสบายระหว่างการเดินทางด้วยที่รองขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำให้ผู้โดยสารสามารถเหยียดขาได้อย่างอิสระ ลดอาการเมื่อยล้าของขาและเท้าระหว่างการเดินทางไกล นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอเนกประสงค์ในเบาะหลังคนขับดีไซน์โค้ง เพื่อลดอันตรายจากการกระแทกสำหรับเด็ก เบาะนวดไฟฟ้า 10 จุดคู่หน้า มอบความเพลิดเพลินจากการนวดระดับสปาด้วยโหมดการนวด 5 รูปแบบ

หลังคากระจกพาโนรามาขนาด 2.6 ตารางเมตร พร้อมม่านไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 620 Premium) ให้การป้องกันแสงแดดและสะท้อนความร้อนได้ดียิ่งขึ้น กระจกลามิเนตสองชั้นรอบคัน ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก สร้างพื้นที่ส่วนตัวที่เงียบสงบ พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พิเศษ 670 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋ากอล์ฟได้ถึงสามใบ พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระแบบสองชั้นขนาด 80 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว และอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดเก็บด้านหน้ารถใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 55 ลิตร


สัมผัสสุนทรียภาพที่เหนือกว่า ด้วยระบบเสียง Dolby Atmos 7.1.2 พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 22 ตำแหน่ง สร้างประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริง ทำงานร่วมกับซับวูฟเฟอร์ ให้เสียงเบสที่หนักแน่นเหมือนการแสดงสดที่น่าประทับใจ พร้อมลำโพงอิสระที่ตำแหน่งไหล่ของผู้ขับขี่ ช่วยให้สามารถพูดคุยโทรศัพท์หรือฟังระบบนำทางโดยไม่รบกวนการฟังเพลงหรือภาพยนตร์ของผู้โดยสาร หน้าจอความละเอียดสูง 2.5K ขนาด 14.6 นิ้ว ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm 8155 ที่ช่วยให้การเล่นลื่นไหล รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอปพลิเคชันอื่น ๆ นอกจากนี้ HYPTEC HT ยังมาพร้อมระบบน้ำหอมปรับอากาศ ที่สามารถสั่งการผ่านหน้าจอกลาง เลือกกลิ่นได้ถึง 3 รูปแบบ


HYPTEC Smart
ห้องโดยสารอัจฉริยะ ADiGO SPACE มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ 4 ตำแหน่ง ไม่ว่าผู้ใช้อยู่ที่ใดภายในรถ ระบบสามารถรับรู้และดำเนินการตามคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว, ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิขณะขับขี่ ระบบสามารถวิเคราะห์สถานะการขับขี่ของผู้ขับได้อย่างชาญฉลาด และจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและข้อความบนจอคอนโซลกลาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงฟีเจอร์การปรับที่นั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าแบบคลิกเดียว สามารถเลื่อนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าด้วยการกดเพียงครั้งเดียว เพื่อเพิ่มพื้นที่นั่งในแถวที่สองได้อย่างง่ายดาย

HYPTEC Energy
HYPTEC HT มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง มอบอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 5.8 วินาที ทำงานคู่กับแบตเตอรี่ Magazine Battery 2.0 แบบ lithium ion phosphate ขนาดความจุ 83.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยและคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น พร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ และเทคโนโลยี ซูเปอร์ชาร์จ รองรับการชาร์จเร็ว สามารถชาร์จไฟจาก 10-70% ได้ภายใน 15 นาที วิ่งได้ระยะทาง 372 กม. และมีระยะทางขับขี่ไกลสูงสุด 620 กม. สามารถเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ - โคราช โดยไม่ต้องชาร์จไฟระหว่างทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบจ่ายกระแสไฟสู่อุปกรณ์ภายนอก V2L กำลังสูงสุด 3,300 วัตต์

HYPTEC Performance
ระบบควบคุมการขับขี่ที่ทรงพลังของ HYPTEC HT ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม AEP 3.0 ช่วยให้การควบคุมรถขนาดใหญ่เป็นเรื่องงาน ด้วยรัศมีวงเลี้ยว 5.6 เมตร ให้ความคล่องตัวสูง สามารถกลับรถได้ง่าย การจูนช่วงล่างที่มีต้นแบบจากรถซูเปอร์คาร์ พวงมาลัยที่ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำพร้อมโหมดการขับขี่ที่ปรับแต่งได้ ทั้งในด้าน อัตราเร่ง/การเบรก/พวงมาลัย และการฟื้นฟูพลังงานได้อย่างอิสระ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbones) และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link ช่วยเพิ่มสมรรถนะและความสบายในการขับขี่ ลดการโคลงและสะเทือนในขณะจอดหรือเลี้ยว เสริมด้วย ASTC (Eagle Claw) ระบบรักษาเสถียรภาพอัจฉริยะ ช่วยปรับสมดุลของตัวรถโดยอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงจากการลื่นไถลของรถในสภาพฝนตก หรือเมื่อรถเสียการควบคุม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

HYPTEC HT ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากสถาบัน C-NCAP และได้รับคะแนนระดับ G (ระดับสูงสุด) ในด้านการปกป้องผู้โดยสาร , การปกป้องคนเดินถนน และความปลอดภัยเชิงรุก จากสถาบัน Zhongbao Research พร้อมด้วยช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมากมาย ดังนี้

ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้า (SRS Airbags)
ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้างตอนหน้า
ม่านถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้าง
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน (LDP)
ระบบไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC-S&G)
ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
ระบบควบคุมความเร็วในขณะเข้าโค้ง (CSC)
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DMS)
ระบบเสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

คุณ โอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) ยังได้กล่าวอีกว่า “GAC AION ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบพลังงานควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่ เราทำงานร่วมกับ GAC Energy โดยตั้งเป้าสร้างสถานีชาร์จ 25 แห่งในปีนี้ และสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จภายในรัศมี 15 กิโลเมตรทั่วกรุงเทพฯ ภายในปี 2570 เราวางแผนจะสร้างสถานีชาร์จให้ครอบคลุม 100 เมืองทั่วประเทศ เป็นจำนวน 200 แห่ง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION และ HYPTEC จะได้รับความสะดวกสบายในการชาร์จไฟฟ้า ในด้านการพัฒนาบุคลากร เราได้เพิ่มจำนวนพนักงานในประเทศไทยถึง 12.6 เท่า จากช่วงเริ่มต้น และได้สนับสนุนการสร้างงานในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง”

9
มิตซูบิชิ ไทรทัน 2024: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งมั่นส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้า

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นเพื่อการเติบโตในประเทศไทยพร้อมส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้าด้วยการนำเสนอรถยนต์คุณภาพเยี่ยมครบทุกรุ่น พร้อมด้วยรถยนต์รุ่นสเปเชียล เอดิชั่น และรุ่นแพชชั่น เรด เอดิชั่น ที่ผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 สอดคล้องกับแนวคิด ‘วิถีชีวิตใหม่ใจเป็นสุข’


“ในปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ฉลองครบรอบ 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมการผลิตรถยนต์ครบ 6 ล้านคัน โดยความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ชุมชนท้องถิ่น ผู้จัดจำหน่าย พันธมิตรทางธุรกิจ สื่อมวลชน และที่สำคัญที่สุดคือลูกค้าของเรา” มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

“นับตั้งแต่ปี 2504 เราได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยผ่านการจ้างงาน การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การลงทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การส่งออก การช่วยเหลือสังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อร่วมยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย พร้อมมุ่งมั่นนำเสนอยานยนต์ระดับผู้นำที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยต่อไป เพื่อให้ลูกค้าของเราทั้งในประเทศไทย และอีกกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมภายใต้แนวคิด 'Drive your Ambition' ที่มั่นใจได้ในทุกการขับขี่” มร. ชกกิ กล่าวเพิ่มMitsubishi

โดยภายในงานฯ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังเปิดตัวรถยนต์รุ่นสเปเชียล เอดิชั่น และรุ่นแพชชั่น เรด เอดิชั่น เพื่อร่วมฉลองการครบรอบ 60 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมแสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย โดยบนเวทีได้จัดแสดง มิตซูบิชิ ไทรทัน ‘สเปเชียล เอดิชั่น’ ที่ออกแบบโดยคุณรักกิจ ควรหาเวช ศิลปินแนวสตรีทอาร์ตชื่อดังของประเทศไทย ผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มุ่งมั่นในการก้าวไปข้างหน้าและไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นพัฒนายานยนต์และบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ‘แพชชั่น เรด เอดิชั่น’ รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม

สำหรับเหตุผลที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เลือกใช้สีแดงเพื่อร่วมฉลองการครบรอบ 60 ปีนี้ เพราะสีแดงเป็นสีแห่งความมุ่งมั่นและยังเป็นสีประจำของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งปรากฏอยู่บนสัญลักษณ์ ทรีไดมอนส์ และบนรถแข่งแรลลี่ระดับตำนานที่บ่งบอกความเป็น มิตซูบิชิ พร้อมความมั่นใจในคุณภาพ ความน่าตื่นเต้น และความมุ่งมั่นที่ต้องการมอบความพึงพอใจสูงสุด และการค้นหาความสำเร็จใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการตอบแทนสังคม และการเติบโตในแบบที่ยั่งยืน พร้อมกันนี้ยังเผยโฉม มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ ‘สเปเชียล เอดิชั่น’ มาพร้อมกับ สีแดง ที่โดดเด่น พร้อมการตกแต่งพิเศษ เพื่อยกระดับความมีสไตล์ และตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในเมืองที่มองหาแรงบันดาลใจเพื่อทุกความสำเร็จในชีวิต

ทั้งนี้ลูกค้าทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของเราในแบบที่ยั่งยืน ด้วยการซื้อรถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่นสเปเชียล เอดิชั่น และรุ่นแพชชั่น เรด เอดิชั่น โดยบริษัทฯ จะบริจาคเงินมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท* ต่อคัน เพื่อร่วมบริจาคเงินตามปณิธาน 3 หัวข้อหลักของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย

พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนายานยนต์แบบยั่งยืนยังได้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่และร่วมกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยซึ่งถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์รุ่นดังกล่าวนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกอีกด้วย

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คือ รถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก และยังได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งจากลูกค้าและผู้สื่อข่าวสายยานยนต์หลังจากที่ได้ร่วมกิจกรรมทดสอบขับที่ผ่านมา โดย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถขับขี่ได้ทั้งในโหมดไฟฟ้า (EV) สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน และยังสามารถเป็นรถยนต์แบบไฮบริด (HEV) สำหรับการเดินทางระยะไกล พร้อมสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ขับขี่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จไฟฟ้า มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน พร้อมกันนี้ยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถที่มีอยู่ 2 จุด เพื่อให้สามารถสัมผัสกับไลฟ์สไตล์กลางแจ้งรูปแบบใหม่ และยังสามารถเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าฉุกเฉินเพราะ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เอง

10
เทคนิคการลดน้ำหนัก แบบเร่งด่วนในแบบฉบับ 2 อาทิตย์ที่มีความปลอดภัย

รูปร่างดี สุขภาพดี คนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างมาก เทคนิคการลดน้ำหนัก จึงเป็นที่กล่าวถึงในยุคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสามารถทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เห็นผลได้ในเวลาไม่นาน เป็นสิ่งที่คนยุคนี้ได้พูดคุยกัน ถึงแนวทางการมีรูปร่างดี แต่ต้องปลอดภัยด้วยนะ

สุขภาพและพฤติกรรมลดน้ำหนัก ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในความสนใจของคนทุกยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มวัยรุ่นยุคนี้ รวมถึงวัยทำงาน ต้องยอมรับว่า คนไทยอ้วนง่ายขึ้น ด้วยหลากหลายพฤติกรรม ทั้งด้านการกิน และการไม่มีวินัยในการออกกำลังกาย การไม่ใส่ใจในสุขภาพของตนเอง จนทำให้คนไทยเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น และเจ็บป่วยด้วยผลข้างเคียงจากความอ้วนนั้นด้วยเช่นกัน

วันนี้ เราจะมาแนะนำหลักการ และเทคนิคการลดน้ำหนัก อย่างได้ผลดี ภายในสองสัปดาห์ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผน ในการมีสุขภาพที่ดี รูปร่างดี และปลอดภัย
สรุป แนวทางการลดน้ำหนัก สำหรับคนยุคนี้


ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

การลดความอ้วนจำเป็นต้องใช้การควบคุมจำนวนของกินเข้ามาช่วย เสนอแนะว่าให้รับประทานเมล็ดพืช 1 ถ้วยคู่กับนมอัลมอนด์ แทนที่จะเลือกรับประทานข้าวเหนียวหมูปิ้ง จะช่วยทำให้ย่อยง่ายมากยิ่งขึ้น


มื้อกลางวันที่เน้นโปรตีน

สำหรับมื้อกลางวันชี้แนะให้ทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำ แต่ว่าให้โปรตีนสูง ดังเช่นว่า อกไก่ กับผักใบเขียว หรือจะดื่มเบเน่ฟิตโปรตีนซึ่งได้มาจากพืชก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะเหตุว่า ไขมันน้อย แคลอรีต่ำ รวมทั้งยังช่วยทำให้ย่อยง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


ของว่าง 2 มื้อต่อวัน

การกินของกินเล่นจะช่วยทำให้ระบบการทำงานเกี่ยวกับการย่อยอาหารปฏิบัติงานได้อย่างมาก เน้นย้ำคือผลไม้ ดังเช่นว่า เชื้อสายเบอร์รี่ หรือหากต้องการรับประทานของหวาน แนะเป็น เมล็ดพืชอบกรอบ หรืออัลมอนด์ ด้วยเหตุว่าช่วยทำให้อิ่มอิ่ม แถมไม่อ้วนด้วย


อาหารเย็นที่มีแคลอรี่ต่ำ

อาหารค่ำเป็นตัวการที่จะทำให้น้ำหนักพุ่งสุดๆควรที่จะทำการเลือกทานอาหารเย็นที่มีแคลอรีต่ำ โดยจำนวนแคลอรี่ของข้าวเย็นควรจะต่ำที่สุดรองจากข้าวเช้า แล้วก็ที่สำคัญควรจะกินมื้อค่ำก่อนนอน 4-6 ชั่วโมง


ลดอาหารที่มีโซเดียม

ถึงแม้ว่าเกลือหรือน้ำปลาจะมีผลให้รสของกินอร่อยขึ้น แม้กระนั้นการกินโซเดียมเยอะเกินไปจะก่อให้เกิดภาวะตัวบวมได้ง่าย


ลดน้ำตาล

น้ำตาล เป็นคาร์โบไฮเดรตประเภทหนึ่ง ซึ่งจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมสุดท้าย น้ำตาลก็เลยเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความอ้วนที่ได้ผลชัด


ออกกําลังกายแบบคาร์ดิโอ อย่างสม่ำเสมอ

การบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอจะช่วยทำให้ระบบเผาผลาญดียิ่งขึ้น เสนอแนะให้วิ่งวันละ 20 นาที จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดมีการสูฉีด ร่างกายมีการเผาผลาญ เปลี่ยนแปลงน้ำตาลไปเป็นไขมัน แล้วก็ช่วยลดการสั่งสมไขมันในส่วนอื่นได้


พักผ่อนให้เพียงพอ

เป็นแนวทางง่ายๆแม้กระนั้นเห็นผลจริง ด้วยเหตุว่าการงดเว้นนอนจะก่อให้ฮอร์โมนภายในร่างกายมีการเปลี่ยน ซึ่งโน่นนำมาซึ่งการทำให้พวกเราอ้วนขึ้นได้! การนอนอย่างต่ำ 8 ชั่วโมงต่อวันจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลรวมทั้งควบคุมการสั่งสมไขมัน นำมาซึ่งการทำให้การลดหุ่นมีคุณภาพมากเพิ่มขึ้นนั่นเอง

11
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



12
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







13
ทาวน์โฮม ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต (Supalai Primo Monument Phuket)
เริ่มต้น 2.89 ลบ.

ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต (Supalai Primo Monument Phuket)
ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต บ้านแฝด/ทาวน์โฮม ภายใต้แนวคิด "Up your game" บนทำเลในจังหวัดภูเก็ต ใกล้ Robinson และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ           ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต (Supalai Primo Monument Phuket)
 เจ้าของโครงการ     ศุภาลัย
 แบรนด์ย่อย          ศุภาลัย พรีโม่
 ราคา                 เริ่มต้น 2.89 ลบ.

 ประเภทบ้าน        บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล       บ้านลักษณะทำเลอื่น
 พื้นที่โครงการ      17 ไร่
 จำนวนบ้าน         158 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด   1 แบบ
  เนื้อที่บ้าน          ตั้งแต่ 19 ถึง 40 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย        ตั้งแต่ 119 ถึง 149 ตร.ม.
 จำนวนชั้น           2 ชั้น
 หน้ากว้าง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน     3 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ     2 คัน
 สาธารณูปโภค     รปภ., CCTV, อื่นๆ (ติดตั้ง Solar Rooftop (เฉพาะบ้านแฝด), เข้า-ออกอัตโนมัติด้วยระบบ Bluetooth)

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน          ถลาง
 ที่ตั้ง         ถนนเทพกระษัตรี ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83110

 ขนส่งสาธารณะ               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. ไทวัสดุ 400 ม.
2. โรงเรียนขจรเกียรติถลาง 850 ม.
3. โรบินสันไลฟ์สไตล์ ถลาง 1.2 กม.
4. อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร 1.2 กม.
5. โลตัส ถลาง 4.8 กม.
6. แม็คโคร ถลาง 4.8 กม.
7. Porto de Phuket 7.5 กม.

14
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: แอนแทรกซ์ (Anthrax)

แอนแทรกซ์ (anthrax)* เป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดขึ้นในสัตว์เลี้ยง (เช่น โค กระบือ ม้า อูฐ แพะ แกะ) ซึ่งสามารถติดต่อมาสู่คนได้ แต่จะไม่ติดจากคนสู่คนด้วยกัน

โรคนี้พบได้ประปราย ซึ่งมักพบในกลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (เช่น คนงานในโรงเลี้ยงสัตว์ โรงงานฟอกหนังหรือทำขนสัตว์ สัตวแพทย์ สัตวบาล) หรือบริโภคเนื้อสัตว์ดิบ ๆ

ในบ้านเรามีรายงานผู้ป่วยเป็นครั้งคราว เคยมีรายงานการระบาดหมู่จากการบริโภคเนื้อกระบือ เมื่อปี พ.ศ. 2525 (ป่วยเป็นแอนแทรกซ์คอหอย 24 ราย ตาย 3 ราย และในช่วงเดียวกันพบแอนแทรกซ์ผิวหนัง 52 ราย)

*โรคนี้มีความร้ายแรง มีการนำเชื้อแอนแทรกซ์ไปผลิตเป็นอาวุธชีวภาพเช่นเดียวกับโบทูลิซึม บรูเซลโลซิส กาฬโรค ฝีดาษ (ไข้ทรพิษ) เชื้อไวรัสสมองอักเสบ เชื้อไวรัสไข้เลือดออกร้ายแรง (Ebola และ Marburg) โรคทูลารีเมีย (tularemia)
ในปี พ.ศ. 2543 ในประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ที่รับจดหมายใส่ผงเชื้อแอนแทรกซ์ (ดูคล้ายแป้ง) จากผู้ไม่หวังดีป่วยเป็นโรคนี้ 22 ราย ตาย 5 ราย เชื่อว่าเชื้อแอนแทรกซ์ขนาด 1 กก. สามารถใช้ฆ่าคนได้ 10,000 คน

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บาซิลลัสแอนทราซิส (Bacillus anthracis) เชื้อโรคมีลักษณะเป็นสปอร์พบอยู่ตามดินทราย มีความทนทานอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานนับสิบปี และมีแมลงวันและนกแร้งเป็นตัวนำเชื้อไปแพร่กระจาย คนเราสามารถติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง ได้แก่

    ทางผิวหนัง โดยการสัมผัสถูกสปอร์ (ตามดินทราย หนังสัตว์ ขนสัตว์) โดยตรง เชื้อจะผ่านเข้าทางบาดแผลหรือรอยถลอกบนผิวหนัง
    ทางปาก โดยการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยไม่ได้ปรุงให้สุก
    ทางเดินหายใจ โดยการสูดเอาสปอร์เข้าไปในปอด มักพบในคนงานในโรงงานฟอกหนัง ทำขนสัตว์หรือหนังสัตว์

เมื่อสปอร์เข้าสู่ร่างกายก็จะมีการงอกเจริญเติบโตและปล่อยสารพิษหลายชนิดออกมาทำลายเนื้อเยื่อต่าง ๆ เกิดอาการอักเสบ บวม เป็นแผล เนื้อตาย เลือดออก

ระยะฟักตัว 1-6 วัน (ถ้าเกิดจากการสูดเข้าทางเดินหายใจ อาจนานถึง 6 สัปดาห์)


อาการ

โรคนี้แบ่งเป็น 3 ชนิด ตามลักษณะการติดเชื้อ ซึ่งมีอาการแสดงและความรุนแรงแตกต่างกัน ดังนี้

แอนแทรกซ์ผิวหนัง (cutaneous anthrax) เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด คือ ประมาณร้อยละ 95 ของผู้ป่วยแอนแทรกซ์ หลังติดเชื้อ 2-5 วันจะเกิดอาการ โดยเริ่มขึ้นเป็นตุ่มนูนที่ผิวหนังคล้ายถูกแมลงกัด แล้วใน 1-2 วันต่อมาจะเป็นตุ่มน้ำขนาด 1 ซม. มีลักษณะบวมโดยรอบ (บางครั้งอาจบวมรุนแรง ถ้าขึ้นที่บริเวณคอ อาจทำให้หายใจลำบาก) หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ตุ่มน้ำจะแตกกลายเป็นแผลมีจุดดำตรงกลาง (ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ตาย) คล้ายถูกบุหรี่จี้ เรียกว่า สะเก็ดแผลไหม้ (eschar)* ตุ่มและแผลจะไม่เป็นหนอง ไม่รู้สึกเจ็บ อาจคันเล็กน้อย ถ้าไม่ได้รับการรักษาประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วยจะมีการแพร่กระจายเชื้อไปทั่วร่างกาย เกิดอาการไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองใกล้บริเวณแผลเกิดการอักเสบ และมีอาการติดเชื้อของอวัยวะต่าง ๆ เป็นอันตรายได้

แอนแทรกซ์ทางเดินอาหาร (gastrointestinal anthrax) พบได้น้อยกว่าร้อยละ 1 ของผู้ป่วยแอนแทรกซ์ อาการเกิดหลังกินเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกประมาณ 2-3 วัน เริ่มด้วยอาการไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ในรายที่เป็นรุนแรงจะมีอาการถ่ายเป็นเลือด ท้องมาน (ท้องบวมน้ำ) ช็อก

ในรายที่มีการอักเสบในคอหอย (แอนแทรกซ์คอหอย) จะมีอาการไข้ เจ็บคอ คอบวม กลืนลำบาก เลือดออกจากปาก หายใจลำบาก ต่อมน้ำเหลืองข้างคอโต

แอนแทรกซ์ปอด (inhalation หรือ pulmonary anthrax) พบได้ประมาณร้อยละ 5 ของผู้ป่วยแอนแทรกซ์ อาการเกิดหลังสูดเอาสปอร์เข้าไปในทางเดินหายใจประมาณ 1-6 วัน อาการแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรกจะเริ่มด้วยอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอแห้ง ๆ รู้สึกแน่นบริเวณยอดอก (ลิ้นปี่) คล้ายไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจเป็นอยู่ 2-3 วัน อาการนี้ก็จะทุเลาลงหรือหายไปเอง แต่หลังจากนั้นก็เข้าสู่อาการระยะที่ 2 (ซึ่งสปอร์มีการงอกเจริญเติบโต และปล่อยพิษออกมาจำนวนมาก ทำลายปอดอย่างรุนแรง) ผู้ป่วยจะกลับทรุดลงด้วยอาการไข้สูง เหงื่อแตก หายใจหอบ ตัวเขียว บางรายอาจมีอาการไข้ต่ำหรือตัวเย็นเกินร่วมกับภาวะช็อก มักจะมีอาการอยู่ประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วเสียชีวิตภายในเวลารวดเร็ว (หากไม่ได้รับการรักษา) ถ้าไม่ได้รับการรักษาแอนแทรกซ์ปอดมีอัตราตายร้อยละ 95

* ลักษณะแผลที่มีจุดดำเป็นที่มาของชื่อโรค คำว่า anthrax เป็นภาษากรีก แปลว่า ถ่านหิน (coal) ซึ่งมีสีดำ


ภาวะแทรกซ้อน

ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยจะมีเยื่อหุ้มสมองอักเสบแทรกซ้อน เกิดจากการแพร่กระจายของเชื้อทางกระแสเลือด ซึ่งเกิดได้กับแอนแทรกซ์ทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอนแทรกซ์ปอด

อาจเกิดภาวะช็อกจากการตกเลือดทางเดินอาหาร หรือจากร่างกายสูญเสียน้ำ (น้ำออกจากกระแสเลือดไปอยู่ในช่องท้องและเนื้อเยื่อต่าง ๆ)

บางรายอาจมีภาวะไตวายแทรกซ้อน ซึ่งเกิดจากพิษของแอนแทรกซ์


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

แอนแทรกซ์ผิวหนัง จะพบรอยแผลที่ผิวหนังขึ้นเป็นตุ่มนูนแดง ต่อมากลายเป็นตุ่มน้ำแล้วแตกเป็นสะเก็ด มีจุดดำตรงกลางคล้ายรอยถูกบุหรี่จี้ เรียกว่า สะเก็ดแผลไหม้ ในระยะหลังอาจตรวจพบไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต

แอนแทรกซ์ทางเดินอาหาร มักตรวจพบไข้ อาจพบแผลในช่องปาก เลือดออกจากปาก ต่อมน้ำเหลืองข้างคอโต คอบวม ในระยะหลังอาจพบอาการท้องมาน ถ่ายเป็นเลือด ซีด ช็อก

แอนแทรกซ์ปอด จะพบไข้ หายใจหอบ ตัวเขียว ช็อก ใช้เครื่องฟังปอดอาจได้ยินเสียงกรอบแกรบ (crepitation) เสียงหายใจค่อย ปอดเคาะทึบ (เนื่องจากมีภาวะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด)

อาจตรวจพบภาวะแทรกซ้อน คอแข็ง หมดสติ (จากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ) ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออก (จากภาวะไตวาย)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ย้อมเชื้อจากแผล เสมหะ หรืออุจจาระ เพาะเชื้อจากเลือดหรือเสมหะ พิสูจน์ชิ้นเนื้อผิวหนัง (skin biopsy) ทดสอบทางน้ำเหลืองเพื่อหาระดับสารภูมิต้านทาน เอกซเรย์ปอด (บางรายอาจต้องตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) รวมทั้งทำการเจาะหลังเพื่อตรวจน้ำไขสันหลัง และใช้เครื่องส่องตรวจกระเพาะลำไส้


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล นอกจากการรักษาตามอาการ (เช่น ยาลดไข้ ให้เลือด ให้สารน้ำและเกลือแร่ ให้ออกซิเจน เป็นต้น) แล้ว ที่สำคัญคือการให้ยาปฏิชีวนะกำจัดเชื้อ เช่น ไซโพรฟล็อกซาซิน หรือดอกซีไซคลีน ร่วมกับคลินดาไมซิน และ/หรือไรแฟมพิซิน โดยให้ทางหลอดเลือดดำ เมื่อดีขึ้นจึงเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดกินนาน 60 วัน

ผลการรักษา ถ้าได้รับยาปฏิชีวนะตั้งแต่ก่อนมีอาการ (สำหรับผู้สัมผัสโรค) หรือระยะแรกเริ่มของการแสดงอาการ หรือเป็นแอนแทรกซ์ผิวหนัง ก็มักจะได้ผลดี และหายได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าให้การรักษาช้าเกินไป หรือในรายที่เป็นแอนแทรกซ์ปอด ก็มักจะได้ผลไม่ดี และยังมีโอกาสเสียชีวิตได้ (แอนแทรกซ์ปอดถึงแม้จะได้รับการรักษา ก็ยังมีอัตราตายสูงถึงร้อยละ 75) ส่วนผู้ป่วยที่มีเยื่อหุ้มสมองอักเสบแทรกซ้อนมักจะตายเกือบทุกคน


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้สูงร่วมกับอาการหนาวสั่น มีแผลที่ผิวหนังเหมือนถูกบุหรี่จี้ หรือมีไข้ร่วมกับอาการไอ หายใจหอบ (ซึ่งพบในคนงานในโรงงานฟอกหนัง ทำขนสัตว์หรือหนังสัตว์) หรือมีไข้ร่วมกับอาการปวดท้อง ท้องเดิน ถ่ายเป็นเลือด (หลังกินเนื้อสัตว์ดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ) ซึ่งพบในผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีคนหรือสัตว์ป่วยด้วยโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคแอนแทรกซ์ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    กินยาปฏิชีวนะให้ครบตามระยะที่แพทย์กำหนด (อาจนานถึง 60 วัน) ถึงแม้อาการดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้าหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

1. ดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์เลี้ยงอย่างเคร่งครัดและทั่วถึง

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อหรือเป็นโรคแอนแทรกซ์

3. ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงให้สุก

4. ผู้สัมผัสเชื้อ (กินเนื้อสัตว์ที่เป็นโรค สูดสปอร์แอนแทรกซ์เข้าปอด หรือสัมผัสถูกสัตว์ป่วยโดยตรง) ควรให้ยาป้องกันกินทันที (ก่อนมีอาการ) และกินติดต่อกันนาน 60 วัน โดยเลือกใช้ชนิดใดชนิดหนึ่งดังนี้

    ไซโพรฟล็อกซาซิน 500 มก. วันละ 2 ครั้ง
    ดอกซีไซคลีน 100 มก. วันละ 2 ครั้ง
    สำหรับเด็กและหญิงตั้งครรภ์ ให้อะม็อกซีซิลลิน 500 มก. ทุก 8 ชั่วโมง (เด็กให้ขนาด 80 มก./กก./วัน แบ่งให้วันละ 3 ครั้ง)

5. วัคซีนป้องกันแอนแทรกซ์ ไม่แนะนำให้ฉีดแก่คนทั่วไป แต่จะฉีดให้แก่กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อแอนแทรกซ์ เช่น ทหาร (เสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเชื้อแอนแทรกซ์) ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ระบาด ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่นำมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับเชื้อชนิดนี้


ข้อแนะนำ

1. ปัจจุบันพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์ในบ้านเราน้อยมาก เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสัตว์เลี้ยงอย่างทั่วถึง แต่ในบางครั้งหรือบางแห่งอาจมีการละเลยในการป้องกันโรคในสัตว์เลี้ยง ก็ยังมีโอกาสแพร่โรคนี้มาสู่คนได้ จึงต้องระมัดระวังในการป้องกันโรคนี้

2. อาการแสดงของโรคนี้คล้ายไข้หวัดใหญ่ สครับไทฟัส ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ดังนั้นถ้าพบผู้ที่มีอาการของโรคเหล่านั้น อย่าลืมถามประวัติการสัมผัสโรคจากสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการระบาด

3. โรคนี้ติดต่อจากสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อ ไม่ติดจากคนสู่คนด้วยกันเอง ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องแยกหรือกักตัวผู้ป่วย

15
จัดฟันบางนา: เวลาสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะทำให้เกิดการระคายเคืองช่องปากหรือไม่ ?

การจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง ไม่ทำให้เกิดฟันผุ เพราะการเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ขณะทำความสะอาดช่องปาก จึงทำให้ไม่เกิดฟันผุ และมีฟันที่สะอาด เพราะการผุของฟัน จะเริ่มขึ้นที่ชั้นผิวเคลือบฟันก่อน โดยจะเห็นเป็นจุดดำเล็ก ๆ หรือเป็นเส้นดำตามร่องฟันด้านบดเคี้ยว  หรือเนื้อฟันมีสีขาวขุ่นผิดปกติ  ดังนั้น การทำความสะอาดฟันที่ดี สามารถชะลอการลุกลามของโรคฟันผุได้  แต่หากเราปล่อยไว้ไม่ดูแล ฟันผุลุกลามไปถึงขั้นเนื้อฟัน จะมีอาการเสียวฟันเมื่อบดเคี้ยวอาหาร หรือเมื่อกระทบของเย็น บางครั้งอาจมีอาการปวดได้ แต่หากเรายังปล่อยทิ้งไว้จนฟันผุลุกลามไปถึงขั้นโพรงประสาทฟัน

ซึ่งมีเส้นเลือดและเส้นประสาท จะทำให้อาการปวดรุนแรงมากขึ้น จนอาจต้องสูญเสียฟัน เนื่องจากผุลุกลามมาก ไม่สามารถเก็บรักษาฟันซี่นั้นไว้ได้  ซึ่งจะมีผลกระทบด้านการบดเคี้ยวจะมีประสิทธิภาพลดลง และต้องใช้ฟันเทียม ซึ่งมีค้าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันได้ทำความสะอาดช่องปากอย่างเต็มที่ ต่างจากคนที่เข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไปที่อาจจะทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงนั่นเอง

นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส ยังมีเครื่องมือการจัดฟันที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ตามแผนการรักษาที่ทันตแพทย์ได้ทำการวางไว้ก่อนการรักษา และเครื่องมือยังออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถเข้ากับช่องปากของผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสได้เป็นอย่างดี หลายคนที่สนใจจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส คงมีคำถามว่า  การสวมใส่เครื่องือการจัดฟันแบบใสนั้น จะทำให้เกิดการระคายเคืองช่องปากหรือไม่ เพราะปัญหาที่ผู้เข้ารับการจัดฟันมักจะเจอนั่นก็คือ การที่เครื่องมือการจัดฟัน เกิดบาดกระพุ้งแก้ม ทำให้เกิดแผลภายในช่องปาก ทำให้มีอาการแสบและทำให้รับประทานอาหารได้ไม่เต็มที่ ต้องบอกก่อนว่า เครื่องมือการจัดฟันแบบใส กับเครื่องมือการจัดฟันแบบทั่วไปนั้น มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันได้อย่างพอดี

โดยไม่เกิดการระคายเคือง สำหรับข้อนี้ผู้ที่กำลังจะตัดสินใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ไม่ต้องกังวลเลย เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส สามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย มีความกระชับ ทำให้เวลาที่สวมใส่เครื่องมือรู้สึกสบายแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าเรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ และที่สำคัญเครื่องมือการจัดฟันแบบใส สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหาร ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของเครื่องมือเลย เพราะฉะนั้น การเข้ารับการจัดฟัน สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประวันได้อย่างดีเลยทีเดียว

หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อ ขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันและมีประสบการณ์อย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญทางเรายังมีเครื่องมือ อุปกรณ์ที่มีความสะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน และยังได้รับรองสูงสุดจาก invisalign เพราะการเข้ารับการจัดฟันแบบใส จะต้องทำโดยทันตแพทย์ที่ผ่านการรับรองจาก invisalign เท่านั้น แน่นอนว่าถ้าเข้ารับการจัดฟันจากทางคลินิกคุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

หน้า: [1] 2 3 ... 8
Tage: โฟสฟรี ประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี google โพสต์ฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google